14 ข้อควรรู้โรคริดสีดวงทวาร คืออะไร? มีสาเหตุและอาการอย่างไรบ้าง?

ข้อควรรู้โรคริดสีดวงทวาร

รู้กันหรือไม่ว่าโรคริดสีดวงทวาร นั้นมีความน่ากลัวกว่าที่คิด หากเราไม่ให้ความสำคัญและได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เพราะอาการที่เกิดขึ้นมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ซึ่งหมายความว่าทุกคนสามารถเป็นริดสีดวงได้ แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือการได้รับความรู้และข้อมูลในการรักษาที่เหมาะสม เพราะถ้าปล่อยให้อาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การรักษาอาจจะไม่จบที่การทานยา การเหน็บ หรือการใช้ยาทาเพื่อรักษาอาการ ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคริดสีดวง พร้อมแนะนำข้อควรรู้และการปฏิบัติตัวว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

ริดสีดวงทวาร คืออะไร?

โรคริดสีดวง คืออะไร

ริดสีดวงทวาร คือโรคที่เกิดขึ้นจากกลุ่มของเส้นเลือดดำบริเวณทวารหนักหรือส่วนปลายสุดของลำไส้ใหญ่ และที่ขอบรูทวารหนักมีอาการโป่งพองและยื่นออกมา ไม่มีการยุบลงเมื่อเสร็จกิจจากการขับถ่าย จนทำให้มีเลือดออกเมื่อถ่ายอุจจาระออกมาหรือมากไปกว่านั้น อาจมีก้อนเนื้อยื่นออกมาจากปากทวารหนักนั่นเอง

ริดสีดวง มีกี่ระยะ

ริดสีดวงมีกี่ระยะ

อาการของโรคริดสีดวงทวารนั้นจะถูกแบ่งออกตามอาการเริ่มต้นไปที่ยังพอรักษาด้วยตนเองได้ ไปจนถึงอาการรุนแรงที่จำเป็นต้องผ่าตัดได้ทั้งหมด 4 ระยะด้วยกันดังนี้

ริดสีดวงระยะ 1

ในระยะแรกของโรคริดสีดวงนั้นจะยังมีขนาดเล็กมองไม่เห็นมีอาการเส้นเลือดดำโป่งพองในทวารหนัก ทำให้เวลาที่ผู้ป่วยขับถ่ายหรือเบ่งอุจจาระจะมีเลือดไหลตามออกมาด้วย ถ้าหากมีอาการท้องผูกร่วมด้วยก็จะยิ่งมีเลือดออกมาก แต่ในการรักษานั้นจะไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทาน เช่น ทานอาหารที่มีกากใยมากขึ้น ดื่มน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน งดพฤติกรรมนั่งแช่นาน ๆ เวลาขับถ่าย หรือการทานยาในระยะแรกก็จะหายเร็วมากยิ่งขึ้น

ริดสีดวงระยะ 2

ในระยะนี้ ริดสีดวงจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นสามารถโผล่ออกมาข้างนอกได้เมื่อมีการเบ่งอุจจาระแต่ยังสามารถหดกลับเข้าไปเองได้ การรักษาในระยะที่ 2 ไม่ยังไม่ค่อยแตกต่างจากระยะแรกเท่าไหร่นัก อาจมีการเพิ่มยาทานระบายอ่อน ๆ เพิ่มเติม หรืออาจใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงร่วมด้วย เป็นต้น

ริดสีดวงระยะ 3

ริดสีดวงในระยะนี้ เป็นอาการที่ค่อนข้างรุนแรงมากขึ้นกว่า 2 ระยะแรกพอสมควร เพราะริดสีดวงจะโผล่ออกมามากกว่าเดิม เมื่อมีการเบ่ง หรือการทำอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดการเบ่งของช่วงท้อง เช่น การจาม หรือการยกของ จะทำให้หัวของริดสีดวงออกมานอกทวารหนักไม่สามารถหดกลับเข้าไปได้ ซึ่งระยะนี้มีความจำเป็นต้องรีบรักษาโดยด่วน ไม่ว่าจะเป็นการทานยา หรือการผ่าตัด

ริดสีดวงระยะ 4

การลุกลามของโรคริดสีดวงคือช่วงที่รุนแรงมากที่สุด โดยริดสีดวงจะออกมานอกทวารอย่างเห็นได้ชัด จนเกิดอาการอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น อาการบวมแดงจากกการอักเสบ และอาจอันตรายถึงขัดเกิดอาการแทรกซ้อนได้ หรืออาจมีเลือกออกมาเสมอ อาการเหล่านี้เป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อโรคได้ วิธีการรักษาในระยะที่ 3-4 จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดด้วยเครื่องมือที่อาจมีรูปแบบแตกต่างกันออกไปของแต่ละโรงพยาบาล

ริดสีดวง เกิดจากอะไร

สาเหตุของการเกิดโรคริดสีดวง

สาเหตุของโรคริดสีดวงทวารนั้นสามารถเกิดจากหลายปัจจัยดังนี้

  • พฤติกรรมจากการทางอาหารในชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องการทานอาหารที่มีกากใยน้อยเกินไป ซึ่งอาหารเหล่านี้จะอยู่ในจำพวกของผักและผลไม้ และอีกอย่างก็คือการดื่มน้ำระหว่างวันที่น้อยเกินไป มีผลทำให้ลำไส้ขาดน้ำสำหรับการช่วยย่อยทำให้เกิดการสะสมของเสีย จนทำให้เลือดในร่างกายไม่สะอาด
  • การนั่งถ่ายนาน ๆ เช่น การนั่งเล่นสมาร์ทโฟน หรืออ่านหนังสือนาน มีผลทำให้เบาะรองเลื่อนลงมา รวมไปถึงการขับถ่ายไม่สุดจนเกิดการเบ่งซ้ำหลายครั้งก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
  • เกิดจากภาวะท้องผูกเรื้องรัง เพราะต้องมีการเบ่งอุจจาระเป็นประจำ ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อหลอดเลือดอักเสบ ทำให้หลอดเลือดดำบริเวณปากทวารหนักโป่งพอง
  • น้ำหนักตัวก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะมีผลให้แรงดันลมในช่องท้องและอุ้งเชิงกรานมากขึ้น ทำให้เลือดคลั่งในเนื้อเยื่อหลอดเลือดได้ พบได้ในผู้ที่เป็นโรคอ้วน และผู้ที่ตั้งครรภ์
  • ความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ และกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดบริเวณอื่น ๆ โป่งพองได้ง่าย มักพบภาวะนี้ในผู้สูงอายุ

อาการริดสีดวงทวาร ที่มักพบบ่อย

อาการที่บ่งบอกว่าเป็นริดสีดวง

สำหรับโรคริดสีดวงทวารนั้นจะออกอาการทั้งจากภายนอกและภายในร่างกาย ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน แต่ต้นเหตุจะเกิดมาจากการขยายตัวของหลอดเลือดดำบริเวณปากทวารหนักจนมีภาวะความดันสูง โดยอาการของ ผู้ป่วยริดสีดวงทวารมีดังนี้

  • อาการเริ่มแรกจะพบว่ามีเลือดออกมาจากการอุจจาระเล็กน้อย หรืออาจมีเลือดเคลือบออกมาด้วย จนทำให้เกิดอาการเจ็บปวดตามมาในระยะต่อ ๆ ไป
  • คลำเจอเป็นก้อน ๆ ที่บริเวณทวารหนักหลังจากขับถ่าย
  • เริ่มพบความผิดปกติในช่องท้อง อาจรู้สึกอาการเจ็บ ๆ คัน ๆ ร่วมด้วย
  • พบก้อนริดสีดวงโป่งพ่องออกมาในขณะที่กำลังขับถ่าย อาจมีเลือดออกตามมาด้วยเพราะเกิดการเสียดสีกันในบริเวณที่เกิดการโป่งพอง
  • บางรายอาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดคล้ายจะเป็นลมร่วมด้วย

โรคริดสีดวง มีกี่ชนิด

ตามหลักแล้วโรคริดสีดวงทวารนั้นสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 2 ชนิดด้วยกันคือ “ริดสีดวงทวารภายใน” และ “ริดสีดวงทวารภายนอก” ซึ่งทั้ง 2 ชนิดก็จะมีอาการที่แตกต่างกันดังนี้

ริดสีดวงภายใน (Internal Hemorrhoids)

อาการที่เกิดขึ้นบริเวณเหนือทวารหนักไม่สามารถมองเห็นหรือคลำได้ เพราะริดสีดวงจะถูกปกคลุมด้วยเยื้อของลำไส้ใหญ่ตอนปลายสุด เป็นชนิดที่ไม่เกิดอาการเจ็บปวด

ริดสีดวงภายนอก (External Hemorrhoids)

อาการริดสีดวงที่เกิดขึ้นบริเวณปากทวารหนักสามารถสังเกตเห็นได้ และ เกิดอาการเจ็บปวดตรงส่วนที่เป็นริดสีดวง โดยอาการหลอดเลือดที่โป่งพองจะถูกปกคลุมด้วยผิวหนังอีกที ซึ่งตรงจุดนี้เกิดอาการเจ็บปวดได้

วิธีการรักษาโรคริดสีดวง ด้วยตัวเองมีกี่วิธี

โดยทั่วไปแล้วการรักษาโรคริดสีดวงทวารด้วยตัวเองจะมีอยู่ 3 วิธีหลัก ๆ ด้วยกันคือรักษาด้วยการทานยาแก้ริดสีดวง หรือใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวง, การเหน็บริดสีดวง และการใช้ยาทาริดสีดวง โดยแต่ละวิธีก็จะใช้แก้ตามอาการซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

การทานยาแก้ริดสีดวง

ยารักษาริดสีดวง ชนิดแคปซูล

ยาสำหรับทานเพื่อแก้ริดสีดวง มักจะเป็นยาที่มีฤทธิ์ในการช่วยรักษาและลดอาการบวมของหลอดเลือดบริเวณทวารหนัก อีกทั้งยังช่วยให้หลอดเลือดแข็งมากขึ้น จนทำให้ริดสีดวงเกิดการหดตัวในที่สุด โดยในปัจจุบันก็มียาอยู่หลากหลายแบบตามท้องตลาดรวมไปถึงยาที่ใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวง

ข้อดีของการทานยาแก้ริดสีดวง

  • ลดอาการปวดบวมบริเวณที่เกิดอาการได้ดี
  • เห็นผลการรักษาได้รวดเร็ว
  • มีตัวเลือกในท้องตลาดอยู่หลากหลาย

การเหน็บริดสีดวง

ยาเหน็บริดสีดวง

ยาเหน็บริดสีดวงคือ ยาที่มีลักษณะเป็นแท่งเพื่อใช้ในการสอดเข้าทางทวารหนักของผู้ที่รักษาริดสีดวง เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ สำหรับยาเหน็บตามท้องตลาดก็จะมีสูตรที่แตกต่างกันออกไปบางรายใช้ยาเพียงตัวเดียวหรือบางรายอาจมีหลายตัวยาผสมกันไปโดยมีข้อดีข้อเสียดังนี้

ข้อดีของการใช้ยาเหน็บรักษาริดสีดวง

  • ช่วยลดการอักเสบของริดสีดวงได้ดี
  • ออกฤทธิ์ชาบริเวณทวารหนักทำให้ลดอาการเจ็บปวดได้ชั่วขณะ

ข้อเสียของการใช้ยาเหน็บ

  • ในตัวยาเหน็บมีสเตียรอยด์ผสม ผู้ที่แพ้ตัวยากลุ่มนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับทำงานบกพร่องเพราะในตัวยามีไทรเบโนไซด์
  • ไม่เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตรเพราะในตัวยามีไทรเบโนไซด์
  • เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ใช้อาจเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตได้

การใช้ยาทาริดสีดวง

ยาทาริดสีดวง

ยาทาริดสีดวงมีลักษณะที่เป็นเนื้อครีม ในบางแบรนด์ก็อาจใช้เป็นขี้ผึ้งสำหรับใช้ทาเฉพาะจุด โดยยาทาริดสีดวงสามารถช่วยลดอาการคันและปวดบวมของริดสีดวงได้ดี

ข้อดีของการใช้ยาทา

  • ใช้งานได้สะดวกเพียงแค่ทาตรงจุดที่เป็นริดสีดวง
  • สามารถลดอาการคันและลดปวดบวมได้ดี

ข้อเสียของการใช้ยาทา

หากมือหรือสิ่งที่ใช้ในการสัมผัสตัวยาเพื่อทาไม่สะอาด อาจทำให้เกิดอาการไม่พึ่งประสงค์ตามมาได้ หรืออาจทำให้อาการลุกลามมากกว่าเดิม

การปฏิบัติตัวหลังทานยารักษาริดสีดวง

ข้อควรปฏิบัติตัวหลังทานยารักษาริดสีดวง

ควรปรับพฤติกรรมการทานอาหาร โดยให้เลือกผักผลไม้ หรืออาหารที่มีกากใยสูง และดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วขึ้นไป เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติ สามารถใช้ใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงได้ และควรปรับพฤติกรรมการเข้าห้องน้ำไม่นั่งแช่นานๆ

ขั้นตอนและกระบวนการรักษาริดสีดวง

  • ระวังไม่ให้ตนเองเกิดการท้องผูก ด้วยการกินอาหารที่มีกากใยสูง และดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วขึ้น
  • หากเกิดอาการอักเสบให้กินยาแก้ปวด หรือนั่งแช่ในน้ำอุ่นวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15-30 นาที
  • หากมีหัวริดสีดวงหลุดออกมาให้ดันกลับเข้าไป แต่ต้องสวมถุงมือและชุบด้วยสบู่เพื่อหล่อลื่นและความสะอาด
  • หากมีเลือดออกบ่อย ๆ หรือเป็น ๆ หาย ๆ หลายครั้งควรพบแพทย์เพื่อตรวจความเสี่ยงโรคอื่น ๆ
    การป้องกันและลดความเสี่ยงจากริดสีดวง
  • ทานอาหารที่มีกากใยสูง และดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วขึ้นเพื่อป้องกันเกิดอาการท้องผูก
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบขับถ่ายแข็งแรง
  • ปรับพฤติกรรมการเข้าห้องน้ำไม่นั่งแช่นาน ๆ และไม่เบ่งแรง ๆ

วิธีเลือกใช้ยาในการรักษาริดสีดวง แต่ละแบบ

สำหรับการรักษาด้วยยาทั้ง 3 ชนิดอย่างยากิน ยาเหน็บ และยาทา เป็นวิธีการรักษาที่เหมาะสำหรับริดสีดวงระยะที่ 1-2 โดยทั้ง 3 ชนิดล้วนมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป หากต้องการความสะดวก ยาทาและยากินเป็นตัวเลือกที่ดี แต่สำหรับยาเหน็บจะมีข้อจำกัดมากที่สุดเพราะมีตัวยาสเตียรอยด์และไทรเบโนไซด์ มีผลข้างเคียงต่อผู้ที่แพ้ 2 ชนิดนี้อย่างรุนแรง

ริดสีดวง อันตรายไหม?

โรคริดสีดวงเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนซึ่งอาจไม่ได้มีความอันตรายต่อร่างกายมากนัก ถ้าหากรีบทำการรักษา มีความใส่ใจไม่ละเลยการรักษาความสะอาดและการทานอาหาร ก็สามารถหายเองได้โดยไม่ถึงมือแพทย์ผ่าตัด สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเช็คสัญญาณอันตรายต่อได้ที่บทความ 10 สัญญาณเตือน ริดสีดวงอันตรายไหม? เมื่อเป็นแล้วควรรับมืออย่างไร

ริดสีดวงอักเสบ รักษากี่วันหาย?

หากมีอาการอักเสบในระยะแรกใช้เวลารักษาประมาณ 7-10 วัน โดยในระหว่างนี้สามารถรักษาด้วยตัวเองได้ด้วยการใช้ยาทาน, ยาทา หรือยาเหน็บ ใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงได้ ร่วมกับการนั่งแช่ในน้ำอุ่นวันละ 2-3 ครั้ง

ระหว่างที่เป็นริดสีดวง ห้ามกินอะไร?

  1. อาหารแปรรูปหรือของหมักดองทุกชนิด
  2. เครื่องดื่มแอลกอฮอร์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  3. อาหารรสจัดและของทอดทุกชนิด
  4. เนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก และอาหารทะเลทุกชนิด
  5. ผลไม้บางชนิดที่มีฤทธิ์ร้อนและรสหวานจัด

อ่านบทความเพิ่มเติม : รวม 5 อาหารที่ควรเลี่ยง คนเป็นโรคริดสีดวงห้ามกินอะไรบ้าง? ส่งผลเสียอย่างไร

ยารักษาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี

ยาแคปซูลสมุนไพรรักษาริดสีดวงทวาร

เป็นยาแผนโบราณที่ประกอบไปด้วยสมุนไพร เพรชสังฆาต, โกศกักกรา, ใบมะกา, ใบมะขามแขก และตัวยาสมุนไพรชนิดอื่น ๆ จุดเด่นของ ยารักษาริดสีดวง “อันโดะ” แบบแคปซูล คือสามารถรักษาโรคริดสีดวงได้ทุกระยะ ตั้งแต่ระยะแรกจนะถึงระยะที่ 4 โดยไม่ต้องผ่าตัด ปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายด้วยการนำประโยชน์จากสมุนไพรเพื่อรักษาริดสีดวงได้และยังได้มาตรฐานสากล

สเปรย์น้ำแร่ ฉีดบรรเทาริดสีดวง

นวัตกรรมล่าสุดที่ได้มีการปรับสูตรการรักษาจากยาทาสู่สเปรย์ที่มีการนำน้ำแร่บริสุทธิ์เกาะโอกินาว่าและสารสกัดจากสมุนไพรนำมารักษาริดสีดวง ไม่ว่าจะเป็นดอกดาวเรืองหม้อ, ใบบัวบก, อัลลันโทอิน, ว่านหางจระเข้ และนมผึ้ง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยลดอาการอักเสบ, ลดการติดเชื้อจากแบคทีเรีย, ลดการเสียสีของบาดแผล และสมานแผลจากริดสีดวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การันตีคุณภาพจาก อย. (เลขจดแจ้ง 73-1-6400028165)

สบู่สมุนไพรสำหรับทำความสะอาดริดสีดวง

ด้วยส่วนผสมจากเพชรสังฆาต, ฟ้าทะลายโจร, ใบบัวบก, ทองพันชั่ง และใบหญ้านาง มีคุณสมบัติเด่นสำหรับบรรเทาอาการอักเสบ บวม คัน แสบ ของริดสีดวงทวารได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะอาดปลอดภัยรักษาได้จริงเพียงใช้ฟอกทำความทำความสะอาดทั้งเช้าและเย็น

อ่านบทความเพิ่มเติม : ยารักษาริดสีดวงยี่ห้อไหนดี เลือกใช้อย่างไรให้ได้ผล ที่นี่มีคำตอบ 2021

ยารักษาริดสีดวง ราคา เท่าไหร่?

ยารักษาโรคริดสีดวงในรูปแบบแคปซูลสมุนไพร ในปัจจุปันไม่ได้มีราคาสูงมากนักอยู่ระหว่างหลักร้อย – หลักพันบาท หากเปรียบเทียบกับราคาผ่าตัดในโรงพยาบาลต่างๆ และการรักษาด้วยการผ่าตัดนั้นก็ไม่ได้การันตีว่าโรคริดสีดวงนั้นจะหายขาดเพราะริดสีดวงนั้นเป็นเหมือนโรคพฤติกรรมที่หากคุณกลับไปทำพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำๆ เช่น ทานน้ำน้อย นั่งห้องน้ำนานๆ ก็จะทำให้มีโอกาสกลับมาเป็นโรคริดสีดวงอีกครั้งได้

สรุป

สำหรับโรคริดสีดวงทวารนั้นนับเป็นอีกโรคที่มักเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกช่วงวัย ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการหลัก ๆ จะมาจากการทานอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์น้อย ดื่มน้ำน้อยเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ จึงเป็นผลให้เกิดอาการท้องผูก เป็นอาการที่กระทบต่อมาเป็นทอดๆ และพฤติกรรมการนั่งห้องน้ำนาน ๆ ก็มีผลด้วยเช่นกัน ทั้งนี้อาการของโรคริดสีดวงก็สามารถรักษาให้หายได้หลากหลายวิธี สมุนไพรรักษาริดสีดวงคือหนึ่งในทางเลือกที่ปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีสารตกค้างใดๆ

Similar Posts