ยารักษาริดสีดวงยี่ห้อไหนดี เลือกใช้อย่างไรให้ได้ผล ที่นี่มีคำตอบ 2023

• Facebook
• Twitter
• Line

โรคริดสีดวงทวารนับเป็นโรคที่อยู่กับคนไทยและผู้คนทั่วโลกทุกยุคสมัย และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย โดยสาเหตุหลักๆ เกิดจากกลุ่มหลอดเลือดดำบริเวณปากทวารหนักเกิดอาการโป่งพองจนทำให้เกิดติ่งหรือก้อนริดสีดวงทวารขึ้นมา ซึ่งในเบื้องต้นนั้นโรคริดสีดวงช่วงแรกจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้ ยารักษาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี และควรใช้ยาประเภทไหน ถึงจะเหมาะสมตามอาการ

วันนี้ ANDO จะมาอธิบายเกี่ยวกับการเลือกใช้ยารักษาริดสีดวง ที่ถูกต้อง พร้อมแนะนำว่าแต่ละยี่ห้อไหนต่างกันอย่างไร? มีวิธีเลือกอย่างไรบ้างให้เหมาะกับลักษณะอาการที่เป็นอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ริดสีดวงทวารลุกลามไปถึงระยะอันตรายขั้นที่ 3 และ 4 ได้

ยารักษาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี เลือกอย่างไรให้เหมาะกับคุณ

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้มียารักษาริดสีดวงทวารออกมามากมายหลายสูตรด้วยกัน โดยมีการพัฒนาหรือแบ่งสูตรออกมาเพื่อสามารถช่วยรักษาอาการริดสีดวงทวารได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด และหายขาดจากอาการได้ โดยวิธีการเลือกซื้อยาริดสีดวงทวารนั้นหลัก ๆ จะต้องคำนึงถึง 4 ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการรักษาอาการริดสีดวงทวารดังนี้

1. เลือกตามอาการที่เป็น

การเลือกยารักษาริดสีดวงทวารในปัจจัยแรกนั้นต้องคำนึงถึงอาการที่เป็นก่อนว่าเหมาะสมที่จะใช้ยาตัวไหน เพราะในท้องตลาดมียารักษาริดสีดวงทวารหลากหลายชนิด มีจุดประสงค์ในการใช้ที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นยาทาน เป็นกลุ่มยาที่เข้าไปช่วยสมานเลือดลดการอักเสบ จะมีตัวยาที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ก่อนเลือกซื้อควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ให้ดี เพื่อหลักเลี่ยงอาการแพ้จากตัวยาที่ประกอบอยู่ในแต่ละชนิด

2. ยาที่มีทะเบียนยาชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้

ยารักษาริดสีดวงทวารที่มีความน่าเชื่อถือนั้นจำเป็นจะต้องได้รับการรับรองจาก อย. หรือองค์การอาหารและยา จากภายในประเทศไทยเสียก่อน เพื่อเป็นการการันตีมาตรฐานของยารักษาโรคว่ามีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ยา สามารถรักษาโรคริดสีดวงทวารได้จริง ไม่มีสารอันตรายต้องห้ามจากที่ อย. ได้กำหนด ทั้งนี้ตัวยาที่ผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว จะมีเลขทะเบียนยาอยู่บนฉลากหรือบนกล่องยาระบุไว้อย่างชัดเจน

เลขที่ได้รับการจดแจ้งสามารถนำไปเช็คได้ที่ https://porta.fda.moph.go.th/ ได้ทุกรายเพื่อความอุ่นใจ โดยเลขทะเบียนยาของแบรนด์ อันโดะ คือ G 296/55

3. ดูจากรีวิวผู้ใช้จริงประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ

ด้วยความสะดวกสบายของการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในยุคนี้ ทำให้ผู้บริโภคสามารถรีวิวสินค้าได้ภายหลังจากการซื้อสินค้าไป สินค้าที่เป็นยารักษาโรคเหล่านี้เช่นกัน สามารถรีวิวได้เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภครายอื่น ๆ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการซื้อยารักษาริดสีดวงทวารจากช่องทางออนไลน์สามารถดูจากรีวิวเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรได้รับคำแนะนำจากเภสัชและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นหลักด้วยจึงจะมั่นใจได้มากที่สุด

4. มีราคาสมเหตุสมผล

ราคาของยารักษาริดสีดวงทวารก็นับว่าเป็นอีกปัจจัยให้ต้องสังเกตและให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ด้วยความหลากหลายของยี้ห้อและผู้ผลิตยาจึงทำให้มีราคาที่อาจแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ลืมถึงความสมเหตุสมผลด้วย ตัวอย่างเช่น ยาบรรเทาริดสีดวงทวาร “อันโดะ” ชนิดแคปซูล เป็นยาสมุนไพรชนิดทานมีราคา 1 กระปุกเพียง 790 บาท ซึ่งอยู่ในราคาที่สมเหตุสมผลต่อการรักษาโรคริดสีดวงทวาร สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลยที่ https://www.andoridzy.com/

คุณสมบัติสำคัญ ที่ยารักษาริดสีดวงที่ดีควรมี

คุณสมบัติที่ดี่ของยารักษาริดสีดวงนั้น ในเบื้องต้นควรจะเป็นยารักษาที่มีตัวยาประเภทลดการอักเสบ และสามารถช่วยฟื้นฟูหลอดเลือดได้ดี เพราะอาการหลัก ๆ ของริดสีดวงทวารนั้นเกิดจากอาการโป่งพองและอักเสบของกลุ่มหลอดเลือดดำบริเวณปากรูทวารหนัก ดังนั้นคุณสมบัติพื้นฐานที่ดีของกลุ่มยาสำหรับรักษาโรคริดสีดวงทวารนั้นจะต้องช่วยในการสมานแผลบริเวณรูทวารหนักที่เกิดการเสียดสีได้, ลดอาการปวด บวม อักเสบของติ่งริดสีดวง, ช่วยให้ระบบขึ้นถ่ายดีขึ้น และลดการสะสมสารพิษ เป็นต้น

ยารักษาริดสีดวงทวารมีกี่ชนิด ใช้งานต่างกันอย่างไร

ยารักษาริดสีดวงทวารในปัจจุบันนี้ได้มีการผลิตออกมาค่อนข้างมากหลายหลากสูตร ตามที่แต่ละยี่ห้อเลือกใช้กัน แต่ถ้าให้จำแนกกันตามตรงแล้วในท้องตลาดสามารถแบ่งยารักษาริดสีดวงทวารออกมาได้ทั้งหมด 4 ชนิดด้วยกันคือ ยาริดสีดวงแบบเหน็บหรือสอด, ยาริดสีดวงแบบทา, ยาริดสีดวงแบบพ่น และยาริดสีดวงแบบกิน โดยแต่ละชนิดมีรายละเอียดที่แตกต่างดังนี้

ยารักษาริดสีดวงทวารแบบเหน็บหรือแบบสอด

ยารักษาริดสีดวงทวารแบบเหน็บหรือบางคนเรียกยาสอด มีลักษณะของตัวยาที่เป็นแท่งคลายกระสวยสำหรับใช้ในการสอดเข้าทางรูทวารหนักของผู้ป่วยริดสีดวงทวาร สามารถสอดเข้าไปได้ลึกแล้วค่อย ๆ ละลาย เป็นยาที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการบวมและอักเสบของกลุ่มหลอดเลือดดำบริเวณด้านในและรอบ ๆ ปลายทวารหนัก

ข้อดีคือ สามารถลดอาการปวดบวมด้วยฤทธิ์ยาชาชั่วขณะได้ ใช้รักษาได้ดี แต่ข้อเสีย คือ ไม่ควรใช้รักษาติดต่อกันนานถึง 3 สัปดาห์เพราะในตัวยามีสเตียรอยด์ผสมอาจะทำให้การรักษาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ตามร้านขายยาส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 ยี่ห้อหลัก ๆ คือ DOPROCT และ Proctosedyl ราคาไม่เกิน 300 บาทต่อ 1 กล่อง

ยารักษาริดสีดวงทวารแบบทา

ยารักษาริดสีดวงทวารแบบทา มีลักษณะของตัวยาที่เป็นเนื้อครีม หรือบางสูตรจะใช้ขี้ผึ้งเป็นส่วนผสมหลักของยาทาชนิดนี้ เป็นยารักษาริดสีดวงที่ใช้งานได้ง่ายใช้ทาได้เฉพาะจุด เหมาะสำหรับบางคนที่ไม่นิยมยาเหน็บยาสอด สามารถเลือกใช้ยาชนิดทาแทนได้เช่นกัน มีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวด บวม อักเสบของก้อนหรือติ่งริดสีดวงได้ดีไม่แพ้ยาสอด

ข้อเสียคือ ของยารักษาริดสีดวงชนิดนี้คือเรื่องการใช้ยานั่นเอง เพราะบางคนอาจใช้มือหรือผิวสัมผัสที่อาจไม่สะอาดนัก อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ได้อหากไม่ระวังมากพอ ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเลือกใช้ยี่ห้อ DOPROCT Oilment เป็นยาทาชนิดขี้ผึ้ง

ยารักษาริดสีดวงทวารแบบพ่น

ยารักษาริดสีดวงทวารแบบพ่น เป็นนวัตกรรมใหม่ที่พึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาได้ไม่นาน โดยลักษณะของยาชนิดพ่นที่ว่านี้จะเป็นการนำสารสกัดหรือตัวยาสำคัญมาผลิตเป็นสูตรน้ำ โดยวิธีใช้งานจะเป็นรูปแบบการพ่นลงเฉพาะจุดที่เกิดอาการริดสีดวงทวาร มีคุณสมบัติในการลดอาการบวม อักเสบ ช่วยสมานแผลที่เกิดจากการเสียดสีภายในรูทวารได้ดี อีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองอีกด้วย

โดยในท้องตลาดตอนนี้มียาชนิดพ่นจาก “อันโดะ” เช่นกัน โดยเป็นยาพ่นที่ใช้น้ำแร่พร้อมสมุนไพรนานาชนิดที่มีฤทธิ์ในการลดอีกเสบ ปวดบวม และสมานแผลได้ดี ใช้งานได้สะดวกโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส ราคา 1 ขวด 500 ml 450 บาท ใช้ได้ประมาณ 500 ครั้ง

ยารักษาริดสีดวงทวารแบบทาน

ยารักษาริดสีดวงทวารแบบกิน เป็นชนิดของยาที่มีหลากหลายสูตรทั้งรูปแบบยาแผนปัจจุบันและสมุนไพร เป็นตัวยาที่มีคุณสมบัติในการสมานแผลของหลอดเลือดที่เกิดจากการโป่งพองอักเสบ ช่วยลดอาการบวมอักเสบ รวมไปถึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอีกด้วย ข้อดีก็คือเป็นยาที่เห็นผลการรักษาได้เร็ว ลดอาการริดสีดวงทวารได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ข้อเสียของยาทานกินก็จะเป็นเรื่องของการแพ้ตัวยาสำหรับบางสูตร

ซึ่งบางคนอาจมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกันไป เช่น เป็นผื่น, คลื่นไส้, อาเจียน, ท้องเสีย เป็นต้น จึงจำเป็นต้องได้รับการจ่ายยาจากเภสัชกรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะปลอดภัยที่สุด ในท้องตลาดก็จะมียา Daflon 500 ที่เป็นยาแผนปัจจุบัน ส่วนยากินสูตรสมุนไพร “อันโดะ” ก็มีเช่นกัน โดยสกัดจากสมุนไพรไทยแท้ที่ใช้รักษาริดสีดวงทวารโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเพชรสังฆาต, ใบมะกา, ใบมะขามแขก เป็นต้น ราคา 1 กระปุก 60 แคปซูลราคา 790 บาท

สมุนไพรรักษาริดสีดวงและยารักษาริดสีดวงแบบทั่วไปต่างกันอย่างไร

ตัวยาทั้งแบบแผนปัจจุบันหรือยาทั่วไปกับยาสมุนไพรนั้น ต่างก็มีคุณสมบัติในการลดอาการปวด บวม อักเสบ และช่วยสมานแผลจากการเสียดสีเช่นกัน แต่ในยาแผนปัจจุบันอย่างเช่นยาแบบกินในบางยี่ห้ออาจมีตัวยาที่ทำให้เกิดการแพ้ได้อาจมีผลข้างเคียงต่อระบบประสาท เช่น นอนไม่หลับ วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ เกิดผื่นขึ้นตามตัว คลื่นไส้ อาเขียน เป็นต้น แต่สำหรับในยาที่เป็นสมุนไพรยังไม่มีความแน่ชัดเรื่องอาการแพ้ ดังนั้นการใช้ทั้ง 2 ชนิดจำเป็นจำต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วย

อันตรายหากไม่ใช้ยารักษาริดสีดวง

การละเลยอาการของโรคริดสีดวงทวารนั้นนับเป็นความเสี่ยงอันตรายที่ใกล้ตัวเป็นอย่างมาก เพราะริดสีดวงทวารเป็นโรคที่มีพัฒนาการของอาการจากเบาไปหนัก ดังนั้นหากไม่มีการรักษาด้วยยารักษาริดสีดวง อาจทำให้ก้อนริดสีดวงมีขนาดใหญ่มากขึ้น เกิดการอักเสบมากขึ้น มีการพัฒนาจากระยะที่ 1 ไปจนถึงระยะที่ 4 ได้หากไม่มีการเอาใจใส่ในการรักษาที่ดีพอ

เพราะปลายทางสุดท้ายของการรักษาในระยะที่ 4 นั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่านออกหากเกิดการติดเชื้อได้ นอกจากนี้เรายังสามารถเช็คและสังเกตสัญญาณเริ่มต้นว่า ริดสีดวงอันตรายไหม เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือได้เร็วยิ่งขึ้น

แนะนำการใช้ยารักษาริดสีดวงให้หายแบบเร่งด่วน

โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่มีอาการเกิดขึ้นได้ทั้งภายในแลภายนอก ดังนั้นหากต้องการให้การรักษาเห็นผลที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงอาจจะต้องให้วิธีการรักษารวมกันถึง 3 วิธีร่วมกันได้แก่

1. การรับประทานยารักษาริดสีดวงทวาร ที่เป็นตำหรับโบราณสูตรเฉพาะของ” อันโดะ” ซึ่งมีตัวยาหายาก ออกฤทธิ์ช่วยในการรักษาถึง 5 ชนิด ในปริมาณตัวยาเข้มข้นมากกว่าสมุนไพรยี่ห้ออื่นถึง 10 เท่า จึงเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว สามารถรักษาริดสีดวงจากภายในสู่ภายนอก ทำให้หายขาดจากริดสีดวงได้ทั้งระบบ ตัวยาผ่านมาตรฐานการปรุงยาสมุนไพร โดยเภสัชกรแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย
2. สเปรย์บรรเทาริดสีดวงทวาร ที่มีส่วนผลของสมุนไพรไทยแท้ที่คุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการอักเสบ คัน แสบ รอบทวาร และช่วยสมานแผลจากริดสีดวงให้หายเร็วขึ้น ด้วยส่วนประกอบของสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยในการฆ่าเชื้อโรค บรรเทาอาการอักเสบ ช่วยลดการระคายเคืองแล้ว สมุนไพรทั้งหมดนี้ยังมีความอ่อนโยนสูง สตรีมีครรภ์สมารถใช้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดการติดเชื้อจากการใช้มือ
3. ล้างทำความสะอาดบริเวรริดสีดวงทวาร ด้วยสบู่ทำความสะอาดริดสีดวง อันโดะ เพื่อทำให้แผลมีความสะอาดมากยิ่งขึ้น ช่วยลดอาการคัน อักเสบ จากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้แผลแห้งเร็ว และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวในระหว่างวัน

ข้อห้ามและข้อควรระวังในการใช้ยาริดสีดวง

• ควรระวังเรื่องการแพ้สารบางชนิด เช่น Flavonoid มีส่วนผสมในยาชนิดกิน ยาเหน็บ และยาทา
• ในขณะที่ใช้ยารักษาริดสีดวงทวาร ผู้ป่วยควรดูแลระบบขับถ่ายไม่ให้เกิดอาการ
  ท้องผูกควบคู่ไปด้วยจะทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับได้
• ให้สังเกตอาการจากการรักษาด้วยยาทั้งแบบกินและชนิดอื่น ๆ ในระยะ 15 วัน หากไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที
• ในกลุ่มสตรีมีครรภ์ และสตรีที่ต้องให้นมบุตรอาจจะต้องหลักเลี่ยงยารักษาชนิดกิน ให้เลือกใช้วิธีรักษาด้วยยาทา ยาเหน็บ ยาพ่นจะดีกว่า
• หากรับประทานยาชนิดกินแล้วเกิดอาการผื่นขึ้น คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ หรือ
  ตาบวม ให้หยุดใช้ยาทันที แล้วพบแพทย์โดยด่วน

ริดสีดวงทวารรักษาอย่างไรให้หายขาด

ในการรักษาโรคริดสีดวงทวารนั้นหากต้องการให้หายขาด ควรใส่ใจในการรักษาอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกิน ควรดูแลไม่ให้ขาดอาหารประเภทกากใย ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วขึ้นเพื่อลดโอกาสท้องผูก พร้อมรักษาควบคู่กับยาแต่ละชนิดที่เหมาะสมไปด้วย

ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีอาการตัวซีด สามารถให้ยาบำรุงเลือดเสริมธาตุเหล็กได้ และอีกอย่างที่ควรละเลยคือการเลิกพฤติกรรมการนั่งในห้องน้ำนานๆ รวมถึงการเบ่งแรง ๆ เพราะเป็นสาเหตุหลักให้เกิดการโป่งพองของกลุ่มหลอดเลือดดำบริเวณรูทวารหนักได้นั่นเอง หากระหว่างรักษามีการปรับพฤติกรรมเหล่านี้ได้ก็สามารถหายจากริดสีดวงทวารได้อย่างถาวร

มาถึงตรงนี้แล้วผู้อ่านจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคริดสีดวงทวารมากขึ้น และรู้หลักการเลือกใช้ยารักษาริดสีดวง ยี่ห้อไหนดี ในเบื้องต้นให้เหมาะกับกลุ่มอาการของตนเอง เพราะเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหน ก็เกิดได้ หากมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอย่างเช่น การนั่งแช่ในห้องน้ำนานๆ ชอบแบ่งแรงๆ ซ้ำหลายครั้ง เกิดอาการท้องผูกจากการขาดอาหารประเภทกากใย พฤติกรรมเหล่านี้เป็นความสุ่มเสี่ยงอาจทำให้เกิดโรคได้