อัคคีทวาร คืออะไร? มีสรรพคุณและวิธีใช้อย่างไร? ช่วยเรื่องริดสีดวงได้จริงไหม?

อัคคีทวาร มีสรรพพคุณเป็นอย่างไร

ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า มีการนำสมุนไพรต่างๆมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตยารักษาโรคกันมากยิ่งขึ้น เพราะสมุนไพรต่างๆนั้นมักมีสรรพคุณที่มีประโยชน์สามารรักษาโรคได้หลากหลาย โดยเฉพาะ “อัคคีทวาร” ซึ่งเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่ถูกนิยมนำมาเป็นเป็นส่วนผสมของตัวยารักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะยารักษาริดสีดวง เราจะพามาทำความรู้จักกันแบบเจาะลึกในบทความนี้ว่า สมุนไพรอัคคีทวารคืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร? และ ช่วยรักษาโรคริดสีดวงได้จริงไหม?

อัคคีทวาร คืออะไร?

อัคคีทวาร (Akkhi thawan) เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลายด้าน ที่สามารถใช้นำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ทุกส่วน ซึ่งจะมีชื่อเรียกตามภาษท้องถิ่นที่แตกต่างกัน เช่น ตั่งต่อ ปอสามเกี๋ยน สามสุม (ภาคเหนือ) ตรีชวา (ภาคกลาง) หลัวสามเกียน อัคคี (ภาคกลาง, เชียงใหม่) แข้งม้า (เชียงราย) พรายสะเลียง สะเม่าใหญ่ (นครราชสีมา) มักแค้งข่า (ปราจีนบุรี) หมากดูกแฮ้ง (สกลนคร) มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Rotheca serrata (L.) Steane & Mabb หรือ (Clerodendrum serratum Moon var. wallichii Clarke )

ลักษณะและส่วนต่างๆ ของอัคคีทวาร

อัคคีทวาร มีลักษณะอย่างไร?

ส่วนของลำต้น

ลำต้นตั้งตรงมีความสูงของต้นประมาณ 1-4 เมตร ลำต้นมีลักษณะกลม หรือ เป็นเหลี่ยมเล็กน้อย และ จะแยกออกเป็นช่อๆ ใช้เพื่อลดความดันโลหิต ขับพิษร้อนถอนพิษไข้ แก้ไข้จับสั่น แก้ไข้ป่า ช่วยลดอาการเจ็บคอ คออักเสบ แก้ทอนซิลอักเสบ ลดอาการปวดท้อง และรักษาริดสีดวง

ส่วนของใบ

ใบเป็นรูปรียาวปลายใบแหลมเป็นติ่งสั้น ออกเรียงตรงข้ามกันหรือเรียงซ้อนกันประมาณ 3-4 ใบส่วนขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยช่วงกลางขอบใบไปจนถึงปลายใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 15-28 เซนติเมตร ใช้เพื่อต้มกินแก้อาการจุกเสียด แก้ท้องท้องอืด ลดอาการเสียดท้อง และรักษาริดสีดวง บรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดศีรษะเรื้อรัง แก้อาการหลอดลมอักเสบ และ ลดอาการเจ็บหน้าอก

ส่วนของดอก

เป็นสีม่วงอ่อนเข้ม สีม่วงอ่อนอมสีฟ้า หรือสีชมพูอ่อน โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้น ๆ กลีบดอกมี 5 กลีบแต่ละกลีบมีขนาดไม่เท่ากัน ใช้เพื่อขับปัสสาวะ แก้อาการเสียดท้อง แก้อาการอักเสบโพรงจมูก ช่วยบรรเทาโรคริดสีดวงจมูก

ส่วนของผล

ผลเป็นรูปค่อนข้างกลม ผลเมื่ออ่อนเป็นสีเขียว ผิวผลเรียบเป็นมัน แต่ พอแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ นำมาเคียวเพื่อใช้เป็นยาแก้ไอ และ แก้โรคเยื่อจักษุอักเสบ

อัคคีทวาร มีสรรพคุณอะไรบ้าง?

อัคคีทวารมีสรรพคุณหลากหลาย สามารถใช้รักษาได้ทุกส่วนตั้งแต่ลำต้น ใบ ผล จนถึงราก เช่น ช่วยปัสสาวะ แก้อาการเสียดท้อง แก้อาการอักเสบโพรงจมูก ช่วยบรรเทาโรคริดสีดวงจมูก รักษาริดสีดวง บรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดศีรษะเรื้อรัง แก้อาการหลอดลมอักเสบ แก้ไอ แก้โรคเยื่อจักษุอักเสบ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมพบว่า อัคคีทวาร มีฤทธิ์ต้านการบีบตัวของลำไส้, ฆ่าเชื้อโรค, รวมถึงลดความดันโลหิตได้ดีอีกด้วย

ประโยชน์ของอัคคีทวาร ช่วยเรื่องอะไร?

  • ช่วยขับลม
  • ช่วยย่อยอาหาร
  • รักษาอาการเบื่ออาหาร
  • ลดอาการปวดเกร็งในท้อง
  • ลดอาการจุกเสียดในท้อง
  • รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน
  • รักษาริดสีดวงทวาร
  • รักษาโรคผิวหนัง พวกกลากเกลื้อน
  • รักษาอาการปวดขัดตามข้อ
  • รักษาอาการปวดศีรษะเรื้อรัง
  • ช่วยให้มดลูกเข้าอู่
  • รักษาหลอดลมอักเสบ
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • แก้ไข้ป่า
  • ช่วยลดความดัน
  • ช่วยระบบทางเดินหายใจได้ดี
  • ช่วยลดอาการอักเสบเรื้อรังของโพรงจมูก
  • ช่วยลดเสมหะ
  • รักษาโรคแพ้อากาศ
  • ลดไข้

วิธีและปริมาณในการใช้อัคคีทวาร รักษาอาการต่างๆ

  1. (ใบ) ใช้ใบสดที่มีรสขื่นร้อน ตำพอกลดอาการปวดศีรษะ ปวดศีรษะเรื้อรัง
  2. (ผล) นำผลสุกหรือผลดิบมาค่อยๆเคี้ยว แล้วกลืนน้ำกิน ช่วยรักษาโรคเยื่อตาอักเสบ และ เป็นยาแก้ไอ (อาจมีผลมีรสเปรี้ยวขื่นร้อน)
  3. (ต้น) นามาฝานเป็นชิ้นบางๆ ไปตากแห้ง นิยมนำมาต้มกินเป็นยาลดความดันโลหิต เป็นยาแก้ไข้ป่า และ แก้ปวดท้อง
  4. (ทั้งต้น) รสขมเผ็ด เป็นยาเย็น มีพิษเล็กน้อย ใช้เป็นยาขับพิษร้อนถอนพิษไข้ แก้ไข้จับสั่น (ตามตำรับยาแก้ไข้จับสั่น ระบุไว้ว่าให้ใช้ต้นอัคคีทวารสด 35 กรัม, เมล็ดเฉาก๊วย 5 กรัม เมล็ดพริกไทย 5 กรัม, ต้มรวมกันกับน้ำกิน ก่อนมีอาการไข้ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งพบว่าการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ผลดีแต่ควรงดรับประทานของที่มีรสเปรี้ยว ของที่มีกลิ่นคาว และ ห้ามรับประทานถั่ว ในขณะการรักษาด้วยวิธีนี้)
  5. (ทั้งต้น) นำมาต้มกับน้ำช่วยลดอาการเจ็บคอ รักษาทอนซิลอักเสบ คออักเสบ และ เป็นยาแก้ตับอักเสบ
  6. (ราก) นำมาต้มกินกับน้ำ ช่วยทำให้เสมหะแห้ง และ ช่วยในเรื่องระบบทางเดินหายใจได้ดี เช่น ลดอาการไอ แก้หอบหืด ลดไข้ แพ้อากาศ รวมถึงแก้ริดสีดวงจมูก และ อาการอักเสบเรื้อรังของโพรงจมูก
  7. (ราก) นำรากอัคคีทวารมาต้มผสมกับขิงและลูกผักชี กินรักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  8. (ใบ) นำมาต้มกับขิง นิยมกินเป็นยาแก้หลอดลมอักเสบ
  9. (ใบ) นำใบมาลนไฟ แล้วใช้ประคบบริเวณหน้าอกเพื่อ ลดอาการเจ็บหน้าอก
  10. (ราก) นำมาตากแห้งแล้วต้มกิน มีสรรพคุณรักษาระบบกระเพราะอาหาร และ ลำไส้ เช่น ขับลมในกระเพราะ ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการปวดเกร็งท้อง แก้อาการเบื่ออาการ
  11. (ใบ) นิยมใช้ต้มกินเพื่อรักษาอาการ อาการจุกเสียดท้อง และ แก้ท้องท้องอืด
  12. (ต้น) ต้นอัคคีทวารมีรสขื่นร้อน นิยมใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาขับปัสสาวะ
  13. (แก่น,เนื้อไม้) นิยมฝานลำต้นเป็นชิ้นบางๆ ตากให้แห้งแล้วนำมาต้มรับประทาน เป็นยาขับปัสสาวะ ขับนิ่ว
  14. (ราก,ต้น,ใบ) ล้วนแต่มีสรรพคุณในการรักษาโรคริดสีดวงเหมือนกัน
    (ราก,ต้น) นำรากหรือลำต้นยาวประมาณ 1-2 องคุลี มาฝนกับน้ำปูนใสให้ข้น แล้วนำมาทาริดสีดวง ช่วยรักษาหัวริดสีดวงทวารให้ฝ่อเล็กลง หรือ นำมาทารักษาฝี และแผลบวม ได้ดี
    (ใบ) นำใบอัคคีทวารประมาณ 10-20 ใบ มาตากแห้ง แล้วคลุกกับน้ำผึ้งรวง ปั้นเป็นเม็ด (ขนาดเท่าเม็ดพุทรา)
    รับประทานครั้งละ 2-4 เม็ด ทุกวัน ติดต่อกันประมาณ 7-10 วัน หรือ ใช้ใบแห้งนำมาบดหรือป่นให้เป็นผง โรยในถ่ายไฟ เผาเอาควันใช้รมหัวริดสีดวงที่งอกออกมา เพื่อช่วยทำให้หัวริดสีดวงทวารยุบฝ่อลง
  15. (ใบ,ต้น) นำต้นหรือใบมาตำพอกใส่แผลช่วยดูดหนอง นอกจากนี้ยังรักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน โรคเรื้อน และ แก้อาการขัดตามข้อ
  16. (ทั้งต้น) นิยมนำต้นสดมาตำพอกแก้ฝีหนอง โรคผิวหนัง แก้อาการฟกช้ำ และ ปวดบวม
  17. (ใบ) นำใบสดไปอังไฟแล้วขยี้ใส่แผลฝีหนองเรื้อรัง รอยแผลที่ถูกแมลงกัด หรือ ใช้รักษาปากนกกระจอก
  18. (ทั้งต้น) ใช้ต้มให้สตรีที่เพิ่งคลอดบุตรกิน หรือ ผสมในน้ำตุ้มอาบ เพื่อลดอาการปวดเมื่อย
  19. (ใบ) นำใบสดมาโขลกแล้วคั้นกินน้ำเพื่อให้มดลูกเข้าอู่ดีขึ้น และ ช่วยลดอาการอักเสบ
    หมายเหตุ : วิธีการใช้ถ้าเป็นยาแห้งให้ใช้ครั้งละ 10-15 กรัม ส่วนยาสดให้นำมาตำพอกแผลภายนอกตามความเหมาะสม ส่วนของรากให้นำมาต้มกินหรือบดเป็นผงกิน

อัคคีทวาร มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร

จากการศึกษาทางเภสัชวิทยาของอัคคีทวาร มีผลพบว่าอัคคีทวารมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ที่ได้มาจากจากส่วนสกัดเอทานอลในอัคคีทวาร ส่วนสกัดหยาบเอทานอลของรากอัคคีทวาร (Clerodendrum serratum) จะมีฤทธิ์ antinociceptive, ต้านการอักเสบและลดไข้ และ มีงานวิจัยหนึ่งได้ระบุผลการศึกษาทางเภสัชวิทยาไว้ว่า อัคคีทวารมีฤทธิ์ต้านฮีสตามีน ต้านการแพ้ ต้านการบีบตัวของลำไส้ ลดความดันโลหิตได้ และสามารถฆ่าเชื้อได้ดี ดังนั้นจึงนิยมนำมาเป็นส่วนผสมหลักในตัวยารักษาโรคริดสีดวง

องค์ประกอบทางเคมีของอัคคีทวาร

มีการศึกษาวิจัยองค์ประกอบทางเคมีของอัคคีทวาร พบว่าสามารถแยกสารประเภท ไตรเทอร์พีนอยด์ (triterpenoid) ได้เป็นสารหลัก 3 สาร ได้แก่ สารประกอบประเภท iridoid glycosides ได้จากส่วนใบของอัคคีทวาร ส่วนอีกการศึกษาหนึ่งพบว่าในส่วนของใบของอัคคีทวารมีสาร Queretaroic acid,  Derratagenic acid, Glucorin และ Oleanolic acid ส่วนเปลือกรากพบสาร campesterol และ sitosterol

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของอัคคีทวาร

ในอัคคีทวารพบว่ามีสาร Glucorin, Oleanolic acid, Queretaroic, Serratagenic acid ที่มีฤทธิ์ต้านการแพ้ ต้านฮีสตามีน ต้านการบีบตัวของลำไส้ ช่วยขับลม ฆ่าเชื้อโรค ลดความดันโลหิต ส่วนสาร campesterol และ sitosterol ที่อยู่ในเปลือกรากนั้น จะการออกมีฤทธิ์ฆ่าอสุจิ ต้านการแพ้ ต้านการบีบตัวของลำไส้และลดความดันโลหิต และยังมีผลการวิจัยอีกว่าในอัคคีทวารยังมีสารสกัดเอทานอล (ส่วนสกัดหยาบเอทานอลของรากอัคคีทวาร) Clerodendrum serratum มีการออกฤทธิ์ antinociceptive, ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และลดไข้ได้

อัคคีทวาร รักษาริดสีดวงได้จริงหรือไม่

อัคคีทวารใช้รักษาริดสีดวงทวารหนักได้จริงไหม?

เนื่องจากอัคคีทวาร เป็นตัวสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการบีบตัวของลำไส้ ลดความดันโลหิตลดอาการปวดเกร็งท้อง ขับลม อาการจุกเสียดท้อง แก้ท้องท้องอืด ซึ่งเป็นอาการของโรคริดสีดวง จึงถูกนำมาเป็นส่วนผสมในการทำยารักษาริดสีดวง และอาการของโรคได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณประโยชน์หลักในสมุนไพรอัคคีทวารจะช่วยทำให้ติ่งหัวริดสีดวงฝ่อยุบลงได้ดีอีกด้วย

อัคคีทวารมีผลข้างเคียงไหม?

ในปัจจุบันยังไม่มีผลการวิจัยที่พบว่า อัคคีทวารมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายร้ายแรงกับร่างกาย แต่แนะนำให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ตามคำแนะนำของเภสัชหรือผู้เชี่ยวชาญในการใช้ยา

การแปรรูปอัคคีทวาร ในรูปแบบยารักษาริดสีดวง

อัคคีทวาร ถือเป็นหนึ่งในสมุนไพรรักษาริดสีดวง ยอดนิยมที่ถูกนำมาเป็นส่วนผสมหลักของการปรุงยารับประทาน ชนิดแคปซูลเพื่อใช้รับประทาน ที่จะช่วยลดอาการบวมของหลอดเลือด ทำให้ริดสีดวงเกิดการหดตัว ช่วยสร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด ช่วยให้หัวริดสีดวงยุบ และ ฝ่อลง

ข้อควรระวังในการใช้อัคคีทวาร

สำหรับข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรชนิดนี้ คือ

  • สำหรับสตรีมีครรภ์ และ กำลังให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานสมุนไพรอัคคีทวาร
  • สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนใช้สมุนไพรอัคคีทวาร
  • สำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ แนะนำให้ใช้สมุนไพร หรือ ยาตามขนาด/ปริมาณ ที่ระบุไว้ ในฉลากยา หรือ ตามตำราต่างๆ ไม่ใช้ในปริมาณมากเกินไป และไม่ใช้สมุนไพรต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้

ยาแคปซูลอัคคีทวารยี่ห้อไหนดี?

ยาสมุนไพรริดสีดวงอันโดะ เป็นยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของอัคคีทวาร ในปริมาณที่พอดีตามตำรับยาโบราณ และ มีสมุนไพรอื่นๆที่มีช่วยรักษาอาการริดสีดวงทวารที่เข้มข้นมากกว่าสมุนไพรยี่ห้ออื่นถึง 10 เท่า ทำให้เห็นผลการรักษาที่ชัดเจน รักษาที่ต้นเหตุของอาการ ไม่ใช่แค่การบรรเทาปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ควบคุมมาตรฐานการปรุงยาสมุนไพร โดยเภสัชกรแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีส่วนประกอบของตัวยาสำคัญอีกหลายชนิดได้แก่

  • เพชรสังฆาต ที่ออกฤทธิ์ในการรักษาโรคริดสีดวงทวารภายนอก และภายใน อีกทั้งยังแก้ริดสีดวงทวารทั้งชนิดกลีบมะไฟและเดือยไก่ได้อีกด้วย
  • ใบมะกา ออกฤทธิ์ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และ ช่วยระบายได้ดี
  • โกฐกักกรา ออกฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้ รักษาริดสีดวง
  • ใบมะขามแขก ออกฤทธิ์แก้อาการท้องผูก ช่วยขับลม และ เป็นยาระบายอ่อนๆ

สรุปส่งท้ายบท

อัคคีทวารถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย ในการรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ของร่างกาย ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น และ มีจุดเด่นในการรักษาริดสีดวงทวารได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีผลการวิจัยพบว่าตัวสมุนไพร มีการออกฤทธิ์ต้านการบีบตัวของลำไส้ ลดความดันโลหิตได้ ช่วยซ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยสดอาการอักเสบต่างๆ และ ช่วยย่อยอาหาร ซึ่งเป็นอาการที่เกี่วข้องกับโรคริดสีดวงได้โดยตรง ทำให้ถูกนำมาเป็นส่วนผสมสำคัญในการปรุงยารักษาริดสีดวงทวารนั่นเอง

Similar Posts