รวม Q&A อาการปวดริดสีดวง พร้อมตอบคำถามที่พบบ่อย

คุณกำลังมีอาการแบบนี้อยู่ไหม ถ่ายยาก ท้องผูก ขับถ่ายเป็นเลือด ท้องเสีย เจ็บปวดก้นในขณะอุจจาระ คันตูด มีติ่งเนื้อยื่นออกมาทุกครั้งที่ขับถ่าย นั่งไม่ค่อยติด เจ็บปวดทรมาน สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาทำกิจกรรมที่ต้องมีการเดิน นั่ง ลุกยืนบ่อยๆ ซึ่งทำให้เกิดแรงเสียดสี จนอาการอักเสบของริดสีดวงนั้นรุนแรงขึ้นอีกด้วย หากคุณกำลังมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้จบ วันนี้มีเคล็ดลับที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดริดสีดวง และ ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปวดริดสีดวงจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ปวดริดสีดวง เจ็บทวาร มีอาการอย่างไร?

อย่างที่หลายๆคนทราบกันดีว่าริดสีดวงทวาร มักมีอาการเป็นๆหายๆ และสร้างความรู้สึกเจ็บปวดมาก เมื่อเกิดการอักเสบขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะสร้างความทรมานและความกังวลใจให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดแสบหลังการขับถ่าย หรือ ระหว่างวัน ปวดหน่วงบริเวณรูทวาร ปวดเบ่งเหมือปวดถ่ายตลอดเวลา หรือบางกรณีที่มีอาการอักเสบรุนแรงอาจจะทำให้รู้สึกปวดมากบริเวณริดสีดวง และ ปวดท้องน้อยร่วมด้วย ทำให้มีผลต่อการทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวันได้

วิธีบรรเทาอาการแก้ปวดริดสีดวง

วิธีแก้ปวดริดสีดวงและจะช่วยทำให้อาการอักเสบทุเลาลงที่เห็นผล และเป็นที่นิยม มี ดังนี้

  1. ระวังอย่าให้ท้องผูก ควรกินผักผลไม้ หรือ อาหารที่มีกากใยมากๆ และ ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อขับถ่ายง่ายขึ้น แต่หากยังมีอาการท้องผูกแนะนำให้กินยาระบายร่วมด้วย
  2. หากมีอาการอักเสบทำให้ปวดมาก แนะนำให้กินยาแก้ปวดเพื่อลดอาการ และ นั่งแช่ในน้ำอุ่นจัดๆ ครั้งละ 15 – 30 นาที วันละ 2 – 3 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 7 วัน จะช่วยให้อาการต่างๆดีขึ้น
  3. รับประทานยาสมุนไพรริดสีดวงอันโดะ ที่มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการของริดสีดวงได้โดยตรง ช่วยลดอาการเจ็บปวด ลดการอักเสบของติ่งริดสีดวง ทำให้แผลหายเร็ว และ ช่วยให้ขายขาดจากอาการปวดริดสีดวงได้อีกด้วย
  4. ใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร โดยการสอดยาริดสีดวงที่รูทวาร 7-10 วันติดต่อกัน หรือ จนอาการบรรเทา แต่แนะนำไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 14 วัน เพราะยาเหน็บมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ซึ่งอาจทำให้อาการของริดสีดวงแย่ลง
  5. สเปรย์บรรเทาริดสีดวงทวาร ฉีดพ่นสเปรย์บรรเทาริดสีดวงทวารอันโดะบริเวณที่เป็นริดสีดวง จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบ คัน แสบ รอบทวาร ต้านแบคทีเรีย ซ่อมแซมผิวหนัง ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ใช้ได้ระหว่างวัน
  6. ทำความสะอาดแผลริดสีดวง ด้วยสบู่ทำความสะอาดริดสีดวง อันโดะ ที่ใช้ทำความสะอาดบริเวณที่เป็นริดสีดวงโดยเฉพาะ ช่วยลดอาการอักเสบ คัน บวมแดง และ ช่วยสมานเเผลให้เเห้งเร็วขึ้น
  7. ใช้ยาทาริดสีดวง เป็นยาทาชนิดครีมหรือขี้ผึ้ง ช่วยที่จะช่วยสมานแผลบริเวณทวารหนัก ทำให้เลือดหยุดไหลหลังมีการขับถ่าย ช่วยอาการคัน และ ปวดของริดสีดวง

ปวดริดสีดวง นอนไม่หลับแก้อย่างไร

อาการปวดริดสีดวง จนนอนไม่หลับ และมีอาการคันรอบรูทวารร่วมกับการขับถ่ายเป็นเลือด หรือ มีน้ำเหลืองมีกลิ่นเหม็นที่ริดสีดวง ซึ่งอากาเหล่านี้จะทุเลาลงได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง และ ดื่มน้ำในปริมาณมากๆ เพื่อรักษาอาการท้องผูก
  • ใช้ยาระบาย ร่วมด้วยเมื่อมีอาการท้องผูกขับถ่ายยาก ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อทำให้อุจจาระนิ่ม ลดการบาดรูทวาร
  • สามารถใช้ยาลดอาการปวดทวารได้ เช่น ไนโตรกลีเซอรีน หรือ ยาพารา เพื่อช่วยลดอาการปวดของริดสีดวงได้
  • ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เช่น proctocedyl เพื่อช่วยลดการอักเสบของทวารหนัก แต่ควรใช้ภายใต้การแนะนำของแพทย์เท่านั้น

ปวดริดสีดวง กินยาพาราได้ไหม?

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดริดสีดวงมากๆ สามารถบรรเทาอาการได้โดยการทานยาแก้ปวดกลุ่มยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ที่จะช่วยลดความเจ็บปวดจากอาการของโรคริดสีดวงทวารได้ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทานยาแก้อักเสบ ที่ไม่ใช่ยากลุ่มสเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ซึ่งอาจจะทำให้อาการโป่งพองของหลอดเลือดที่ทวารมากกว่าเดิม ส่งผลให้มีอักเสบมากขึ้น และ เลือดออกจากทวารหนักได้มาก

ปวดริดสีดวงในคนท้อง ควรทำอย่างไรได้บ้าง?

สำหรับสาวๆ ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ และมีอาการของโรคริดสีดวงทวาร เป็นภาวะที่ไม่เป็นอันตราย และไม่มีผลกับทารกในครรภ์ แต่อาจทำให้รู้สึกคัน หรือ เจ็บรอบทวารหนัก และ อาจมีเลือดออกหลังการถ่ายอุจจาระ แต่หากไม่มีอาการที่รุนแรง แพทย์จะแนะนำให้ทำการบรรเทาอาการและรักษาริดสีดวงทวารด้วยตัวเองดังนี้

  • คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรทานผลไม้ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ได้แก่ มะขาม มะละกอ ลูกพรุน และ ดื่มน้ำมากๆ ให้ได้ 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เมื่อไม่เกิดการท้องผูก อุจจาระไม่แข็ง ทำให้ไม่ต้องออกแรงเบ่งแรงๆ ลดการเสียดสี ช่วยทำให้ไม่มีอาการบวมเพิ่มขึ้น ลดอาการของริดสีดวงทวาร ไม่ทำให้ปวด และ ไม่มีเลือดออกมากในขณะขับถ่าย
  • หากมีอาการปวดริดสีดวงในช่วงการตั้งท้อง แนะนำให้ใช้การประคบเย็นในบริเวณริดสีดวงทวารเป็นประจำ โดยการใช้เจลเย็นประคบหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ประคบบริเวณริดสีดวงโดยตรงเพื่อช่วยลดอาการเจ็บ และ ช่วยลดขนาดของริดสีดวงให้เล็กลงด้วย
  • ควรฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา ในช่วงเช้าของทุกวัน เพราะ คนที่ต้องอุ้มท้องหนักๆ โดยเฉพาะในช่วงของการตั้งท้อง 7-8 เดือนหลัง อาจจะทำให้ไม่อยากนั่งห้อง เพราะอาจทำให้มีอาการปวดหลังเวลานั่งนานๆ จนทำให้ระบบการขับถ่ายเปลี่ยนไป จนเกิดอากานท้องผูกเบ่งยาก และ ยิ่งทำให้ไม่อยากขับถ่ายเพราะปวดร้าวมาหน้าท้อง และขาหนีบเวลานั่งเบ่งได้
  • นั่งในอ่างน้ำอุ่นจัด เป็นเวลา 15 ถึง 20 นาที ทุกวัน เพื่อช่วยให้อาการเลือดคั่งดีขึ้น ความร้อนจะช่วยลดความเจ็บปวดและการอักเสบให้ดีขึ้น
  • ใช้สเปรย์บรรเทาริดสีดวง Ando ที่เป็นสเปรย์น้ำแร่สมุนไพรสูตรอ่อนโยน ฉีดพ่นในบริเวณที่เป็นริดสีดวง เพื่อช่วยบรรเทาอาการอักเสบ คัน แสบ ลดการระคายเคืองรอบทวาร และ ลดการติดเชื้อจากการใช้มือสัมผัสหญิงตั้งครรภ์ใช้ได้
  • หากอาการปวดริดสีดวงยังไม่ดีขึ้น และมีอาการบวมปูด หรือ มีติ่งริดสีดวงออกมามากขึ้น เช่น มีอาการท้องผูก เจ็บ มีเลือดออกในขณะขับถ่าย เบ่งก็ยาก และ อุจจาระเป็นก้อนแข็ง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์ก่อนการใช้ยา

อ่านเพิ่มเติม : คนท้องเป็นริดสีดวง รักษายังไง? มีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไร

ปวดริดสีดวงภายใน และปวดริดสีดวงภายนอก ต่างกันอย่างไร

ริดสีดวงทวารภายใน เป็นริดสีดวงที่เกิดขึ้นภายในทวารหนัก โดยมีสาเหตุเกิดจากหลอดเลือดที่โป่งพองแต่อาจจะไม่ได้โผล่ออกมาให้เห็น และไม่สามารถคลำได้ ซึ่งอาจจะมีอาการเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้ ขึ้นอยู่กับระยะของโรค

ริดสีดวงทวารภายนอก จะเป็นริดสีดวงที่เกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นของรูทวาร ซึ่งเกิดจากการที่กลุ่มหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังปากทวารหนักโป่งพอง แต่ริดสีดวงทวารภายนอกสามารถมองเห็นและคลำเจอติ่งริดสีดวงได้ และหากมีการอักเสบอาจทำให้มีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย

ปวดริดสีดวง ควรนอนท่าไหนดี

สำหรับคนที่มีอาการปวดริดสีดวง เนื่องจากติ่งริดสีดวงมีการอักเสบนั้น แนะนำให้นอนคว่ำเข่าชิดบริเวณอก หรือท้อง หรือ ที่รู้จักกันในท่านอนก้นโด่ง ในช่วงตอนเย็นหรือเวลากลางคืน เป็นเวลา 10-15 นาทีต่อวัน เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด บริเวณทวารหนักกลับสู่หัวใจให้ดีขึ้น และ เวลานอนหลับให้ใช้ท่านอนตะแคง หรือ ใช้หมอนหนุนสะโพกให้สูงขึ้นในขณะนอน

ปวดริดสีดวง กินยาอะไรดี?

คนที่มีอาการปวดริดสีดวงเนื่องจากมีอาการอักเสบ หรือติดเชื้อที่บริเวณติ่งริดสีดวง แนะนำให้ทานยารักษาริดสีดวงทวาร อันโดะ ที่เป็นตำรับยาโบราณสูตรรักษาริดสีดวงโดยเฉพาะ โดยการเลือกใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการรักษาริดสีดวงได้จริง ถึง 5 ชนิด ได้แก่ ใบมะกา เพชรสังฆาต โกฐกักกรา ใบมะขามแขก อัคคีทวาร ที่รักษาอาการของริดสีดวงที่ต้นเหตุของอาการ ไม่ใช่แค่การบรรเทาอาการ ด้วยส่วนผสมของสมุนไพรที่เข้มข้นมากกว่ายี่ห้ออื่นถึง 10 เท่า

ที่สามารถดูแลระบบลำไส้ได้ทั้งระบบอย่างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ควบคุมมาตรฐานการปรุงยาสมุนไพร โดยเภสัชกรแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญ การรักษาอาการปวดของริดสีดวงจำเป็นต้องใช้หลายวิธีร่วมกันมากกว่า 1-2 วิธี ควบคู่ไปกับการปฎิบัติตัวตามคำแนะนำเบื้องต้น เพื่อช่วยรักษาอาการปวดของริดสีดวงให้หายขาดได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่าตัด

ปวดริดสีดวงกี่วันหาย?

การรักษาอาการปวดริดสีดวงด้วยตัวเอง โดยปกติจะใช้เวลาอยู่ที่ 7-14 วัน อาการปวด อักเสบ ต่างๆก็จะค่อยๆดีขึ้นอย่างสังเกตได้ชัดเจน และหากทำร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยงของโรค ก็จะทำให้อาการปวดของริดสีดวงหายไปได้เร็วยิ่งขึ้น

อาการปวดริดสีดวงทวารสามารถกลับมาเป็นอีกได้ไหม

อาการปวดของโรคริดสีดวงที่หายไปแล้ว สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หากคุณยังไม่มีการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร ที่ไม่มีกากใย การทานของทอดของมันเป็นประจำ การทานอาหารที่มีรสจัด รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือ ยังมีพฤติกรรมที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น การใช้เวลาในการขับถ่ายนานๆ นั่งเล่นมือถือ อ่านหนังสือในระหว่างกาขับถ่าย การเบ่งอุจาระแรงๆ หรือการปล่อยให้มีอาการท้องผูกหรือท้องเสียเป็นประจำ

อาการปวดริดสีดวงต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวหรือไม่

อาการปวดริดสีดวงสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับอาการและระยะของโรค หากทำการรักษาด้วยตัวเองแล้วอาการดีขึ้นหรือหายขาดจากอาการปวดของริดสีดวงได้เช่น

  • การทานยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง
  • การใช้ยาสอด ยาเหน็บริดสีดวง
  • การนั่งแช่น้ำอุ่นทุกวันเมื่อมีอาการ
  • การออกลังกายเป็นประจำ
  • การ ปรับพฤติกรรมการขับถ่ายให้เป็นเวลา
  • การรักษาความสะอาดบริเวณรูทวารหลังการขับถ่าย
  • การช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในบริเวณริดสีดวงเพื่อลดอาการระคายเคืองในระหว่างวัน
  • การงดอาหารแสลงหรืออาหารย่อยยาก ที่มีผลต่ออาการของริดสีดวง

ซึ่งถ้าหากรักษาอาการปวดริดสีดวงด้วยวิธีเหล่านี้แล้วมีอาการดีขึ้น หรือหายขาด ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด

ปวดริดสีดวงแบบไหนควรได้รับการผ่าตัด

ริดสีดวงที่ควรได้รับการผ่าตัด คือริดสีดวงที่เกิดอาการแทรกซ้อน เช่นมีการติดเชื้อรุนแรง ติ่งริดสีดวงมีขนาดใหญ่ มีเลือดออกมาก หรือคนไข้ที่มีอาการริดสีดวงแตก  ซึ่งแพทย์จะพิจารณารการผ่าตัดด้วยวิธีดังต่อไปนี้

1. เย็บติ่งริดสีดวง เป็นการเย็บหลอดเลือดที่มีลักษณะโป่งพองทำให้ดันติ่งริดสีดวงยื่นออก ซึ่งวิธีนี้แพทย์จะต้องบล็อกหลัง และดมยาสลบให้กับคนไข้

2. การทำเลเซอร์ แพทย์จะใช้เลเซอร์ตัดติ่งริดสีดวงที่ยื่นออกมาออก ซึ่งทำโดยการใช้ยาหลังการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ คนไข้สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นเพราะแผลมีขนาดเล็กเพีบง 2-3 มิลลิเมตรเท่านั้น

3. การผ่าตัดริดสีดวง เป็นการผ่าก้อนริดสีดวงออกแล้วเย็บปิดบาดแผล (นิยมใช้กับคนไข้ที่มีริดสีดวงขนาดใหญ่) ทำให้คนไข้จะต้องนอนโรงพยาบาล 2-3 วัน

ปวดริดสีดวงผ่าตัดแล้วจะหายไหม

โดยปกติแล้วอาการปวดริดสีดวงสามารถรักษา หรือบรรเทาอาการได้ด้วยการทานยาและการดูแลตัวเองร่วมด้วย แต่หากคนไข้มีอาการแทรกซ้องก็สามารถผ่าตัดรักษาริดสีดวงได้ ซึ่งหลังการผ่าตัดอาจมีอาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดและแผลบวม มีเลือดออกบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งอาการเหล่านี้นี้จะหายไปโดยใช้เวลาประมาณ 7- 10 วัน หลังการผ่าตัด แนะนำให้คนไข้ทานยาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

สรุป ปวดริดสีดวงมาก บรรเทาด้วยวิธีไหนดี

อาการปวดริดสีดวงมากสามารถบรรเทาหรือรักษาให้หายได้ด้วยหลายวิธีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการทานยาสมุนไพรสูตรเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพในการรักษาริดสีดวงโดยเฉพาะ การรักษาความสะอาดของทวารหลังการขับถ่ายด้วยสบู่สมุนไพรอันโดะ เพื่อฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรีย ลดการอักเสบ ช่วยสมานแผลให้แห้งไว และ ลดการระคายเคืองจากการนั่ง ลุก เดินหรือกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างวันด้วยสเปรย์สูตรผสมน้ำแร่จากประเทศญี่ปุ่น ที่จะช่วยให้อาการปวดของริดสีดวงของคุณนั้นสามารถหายไปได้เร็วขึ้น และ มีประสิทธิภาพทำให้เห็นผลการรักษาที่รวดเร็วชัดเจนขึ้นแบบ X3

Similar Posts